วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[เนื้อเรื่อง]จุดกำเนิดเหตุการณ์ไดอารี่ต้องสาป Spirit Camera

คำเตือน: บทความนี้มีสปอยล์ 


Fatal Frame Spin-off


Spirit Camera: The Cursed Memoir (Shinrei Camera: Tsuiteru Techou)

       วันหนึ่ง... มีไดอารี่เล่มหนึ่ง
         ไดอารี่สีม่วง
       เป็นไดอารี่เก่าๆที่ผู้คนร่ำลือกันมานานเกี่ยวกับตำนานของมัน
      ในหน้าแรกของไดอารี่ มีรูปถ่ายที่ชวนขนลุกและคำที่คลุมเครือ....
       ใครก็ตามที่เห็นตัวหนังสือในหน้าที่ว่างเปล่านั่น
       จะหายตัวไป และกลายเป็นสิ่งที่แปลกไป
       กลายเป็นศพพร้อมกับใบหน้าที่ถูกตัดออกไป...

        หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ถึงชื่อของหมู่บ้าน  รู้แค่ว่าหมู่บ้านนั้นมีโรคระบาดลึกลับซึ่งหมอและแพทย์ต่างๆก็ไม่สามารถรักษาได้ และได้ทิ้งให้หมู่บ้านนั้นติดโรคระบาดนั้นต่อไปเรื่อยๆ  จนชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นตัดสินใจทำพิธีกรรมหนึ่งที่เรียกว่าพิธีกรรมโทโคโยมิขึ้นมา เพื่อขจัดความมืดที่นำโรคระบาดเข้ามาสู่หมู่บ้านนั้นออกไป ชาวบ้านได้คัดเลือกเด็กสาวที่เพิ่งเกิด และนำไปกักขังเลี้ยงไว้โดยหญิงชราในบ้านหลังหนึ่ง โดยไม่ให้เด็กสาวที่ถูกเลือกออกไปมีความสัมพันธ์อะไรใดๆกับคนภายนอก เพราะชาวบ้านเชื่อกันว่าถ้าผู้ที่ถูกเลือกเพื่อเข้าพิธีกรรมมีความสัมพันธ์กับคนในโลกภายนอก จะถือว่าเป็นคนที่ไม่บริสุทธิ์ สำหรับหมู่บ้านนี้แล้วความสัมพันธ์สำหรับผู้ที่จะเป็นร่างทรงแล้วคือสิ่งต้องห้าม เมื่อผ่านไปหลายปีจนกระทั่งเด็กสาวที่ถูกเลือกมีอายุ 15 ปี (18ปี ในภาคอังกฤษ) ซึ่งเป็นเวลาสมควรที่จะเข้าพิธีกรรม ชาวบ้านจะพาหญิงสาวคนนั้นเข้าสู่พิธีกรรม หญิงชราจะจัดการเย็บปากและตาของหญิงสาวผู้ถูกเลือกให้ปิดสนิท เป็นการทำให้หญิงสาวผู้นั้นกลายเป็น“ร่างทรง”เพื่อให้เป็นร่างของเทพ เทพจะลงมาอาศัยอยู่ในร่างของหญิงสาวที่เป็นร่างทรง และยอมให้ชาวบ้านสื่อสารกับพระเจ้าได้ ทำให้เทพขับไล่ความมืดออกจากหมู่บ้านนั้นได้

        ผ่านมาหลายปีความมืดก็กลับมา ชาวบ้านจึงต้องทำการเลือกเด็กสาวเพื่อมาทำพิธีอีกครั้ง คราวนี้ ชาวบ้านได้ทำการเลือกเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอมีชื่อว่า มายะ และกักขังให้เธออยู่แต่ในบ้านเพียงลำพัง โดยมีหญิงชราจะเข้ามาเลี้ยงดูบ้าง มายะที่เป็นแค่เด็กตัวเล็กๆและอยู่แต่บ้านเพียงคนเดียว เธอไม่รู้จักใครแม้แต่พ่อแม่และไม่มีแม้แต่เพื่อน จึงทำให้มายะเหงามาก วันหนึ่งหญิงชราได้มอบไดอารี่เก่าๆเล่มหนึ่งให้มายะ เพื่อไม่ให้มายะเหงา มายะเขียนเกี่ยวกับครอบครัวพี่น้องในจินตนาการและก็เขียนความรู้สึกของตัวเองต่างๆนาๆลงไปในไดอารี่ด้วย แต่ในขณะนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อไดอารี่เล่มนั้นกลับตอบข้อความของมายะได้ ซึ่งอีกผ่ายหนึ่งที่อยู่ในไดอารี่ก็เรียกตัวเองว่ามายะเช่นกัน ตั้งแต่นั้นมา มายะก็เขียนไดอารี่และมีความสัมพันธ์ลับๆกับมายะอีกคนหนึ่งโดยไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย

       เมื่อมายะมีอายุครบ 15 ปี (18ปี ในภาคอังกฤษ) ก็ถึงเวลาอันควรแล้วที่มายะจะต้องเข้าสู่พิธีกรรม  มายะกลัวชาวบ้านที่จะมาจับเธอไป จึงวิ่งหนีและซ่อนตัวภายในบ้านแต่ชาวบ้านก็เจอเธอและจับมายะไปเข้าพิธีกรรม ชาวบ้านจับร่างกายของเธอไว้และให้หญิงชราเย็บปากและตาของมายะจนปิดสนิท ซึ่งตอนนี้ร่างกายของมายะก็เป็นร่างทรงอย่างเต็มตัว แต่ทว่าก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเทพที่มาสิงร่างมายะไม่ใช่เทพที่ดี แต่กลับเป็นเทพที่มีแต่ความชั่วร้าย เนื่องจากมายะได้ไปมีความสัมพันธ์กับตัวเองอีกคนหนึ่งที่อยู่ในไดอารี่ จึงทำให้เธอเป็นคนไม่บริสุทธิ์และเป็นสาเหตุที่เทพที่ดีไม่สามารถเข้ามาใช้ร่างกายของเธอได้นั่นเอง  พิธีกรรมล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า ส่งผลให้ความมืดนั้นออกมาทำลายหมู่บ้านจนหมดสิ้น ในความโกลาหลครั้งนั้น ขณะที่มายะนอนหมดสติไม่รู้เรื่องอะไรเลย ความมืดได้ปลุกมายะอีกคนหนึ่งตื่นขึ้นและมีตัวตนจริงๆขึ้นมา มายะอีกคนหนึ่งจึงใช้ความมืดกักขังทุกคนรวมทั้งมายะที่นอนหมดสติอยู่เข้าไปในไดอารี่

ไดอารี่สีม่วง
             มายะตื่นขึ้นมาในบ้านหลังหนึ่ง(บ้านที่เธออาศัยอยู่ซึ่งตอนนี้บ้านหลังนั้นก็อยู่ในไดอารี่) แต่ตอนนี้มายะกลับไม่มีความทรงจำหลงเหลืออยู่ เธอจำอะไรไม่ได้ยกเว้นชื่อของเธอเอง ในขณะที่ตัวเธออีกคนมีความทรงจำของเธอทั้งหมด  มายะเดินไปมาภายในบ้านหลังนั้นจนพบกับคนที่มาติดกับในบ้านหลังนี้ เธอจึงได้รู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นของผู้หญิงในชุดดำ  ซึ่งเป็นตัวเธออีกคนหนึ่ง แต่เนื่องจากมายะสูญเสียความทรงจำ เธอจึงไม่รู้ว่านั่นคือตัวเธออีกคน มายะกลัวผู้หญิงในชุดดำจึงพยายามหลบซ่อนจากเธอ เมื่อมายะอีกคนหนึ่งหามายะไม่เจอ เธอจึงรู้สึกเหงาเศร้าและเสียใจ ตั้งแต่นั้นมา มายะอีกคนพยายามล่อคนที่เธอคิดว่าเป็นมายะมาติดกับในนามของผู้หญิงชุดดำ เพราะว่าเธออยากให้มายะมาอยู่กับเธอตลอดไป แต่ถ้าคนที่มาติดกับในไดอารี่เล่มนี้พยายามจะหนี มายะอีกคนจะเอาใบหน้าของพวกคนเหล่านั้นไป เหลือแต่สภาพที่ใบหน้าโดนเย็บเหมือนที่มายะเคยโดนในพิธีกรรม

มายะ

ผู้หญิงในชุดดำ(มายะ)

                ผ่านมาหลายปี อากิระ(โคจิในเวอร์ชั่น US) เด็กหนุ่มที่ได้มาเล่นในที่ที่เขาชอบมาเล่นคนเดียวเป็นประจำ  ในตอนนั้นอากิระก็พบไดอารี่ลึกลับเข้า เขาจึงเปิดมันดูและถูกดูดเข้าไปในไดอารี่ เขาตื่นขึ้นมาในบ้านหลังหนึ่งและพบกับผู้หญิงในชุดดำเข้า  อากิระเล่นซ่อนแอบกับผู้หญิงในชุดดำเป็นประจำ จนอากิระมองว่าผู้หญิงในชุดดำคนนั้นเป็นพี่สาวของเขาไปเสียแล้ว อากิระรู้สึกดีใจมากเพราะว่าเขาจะได้ไม่ต้องเล่นคนเดียวอีกต่อไปแล้ว  อยู่มาวันหนึ่ง อากิระก็เริ่มกลัวเพราะในบ้านหลังนั้นไม่มีใครอยู่เลย อากิระจึงพยายามวิ่งหนีออกจากที่แห่งนี้ แต่เขาก็พบว่าเมื่อเขาวิ่งหนี ใบหน้าของเขาจะหายไป และเขาก็พบกับคนที่ไม่มีใบหน้าในบ้านหลังนั้นด้วย อากิระจึงใส่หน้ากากตั้งแต่นั้นมา  ผ่านมาหลายวันอากิระเริ่มรู้สึกได้ว่าผู้หญิงในชุดดำกำลังรอใครบางคนอยู่  อากิระได้พบเข็มกลัดของผู้หญิงในชุดดำเข้า เขาเปิดมันดูและพบว่าข้างในเข็มกลัดนั้นมีรูปของผู้หญิงในชุดขาว(มายะ)   เขาจึงพยายามตามหาผู้หญิงในรูปนี้ เพื่อที่ผู้หญิงในรูปนี้จะสามารถเป็นพี่สาวคนใหม่ของเขาได้

อากิระ

                 ผ่านมาหลายวันข่าวลือของไดอารี่ต้องคำสาปก็แพร่หลายกันไปมากขึ้น วันหนึ่งชิโอริ  ฮาเซเบะ ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับไดอารี่ต้องคำสาปที่โรงเรียน ถ้ามีใครเล่นบทเพลงที่อยู่ในไดอารี่เล่มนั้นแล้วล่ะก็ คนคนนั้นจะกลายเป็นตัวแทนของใครบางคน ในวันนั้นชิโอริเดินเข้าไปอ่านหนังสือในห้องสมุด แต่ทว่าเมื่อเธอหยิบหนังสือออกมาจากชั้นวางหนังสือ เธอก็พบไดอารี่ที่มีปกสีม่วงซ่อนอยู่ข้างในสุดของที่ชั้นวาง ชิโอริเปิดไดอารี่ดู เธอพบรูปภาพหนึ่งในไดอารี่เล่มนั้น มันเป็นรูปภาพของตุ๊กตาตัวหนึ่ง แต่ที่น่าตกใจก็คือตุ๊กตาตัวนั้นกลับมีหน้าตาเหมือนชิโอริอย่างมาก 

                 ตกกลางคืนชิโอริฝันว่า เธอได้ยินเสียงเพลงบางอย่างเป็นเพลงที่ฟังแล้วงดงาม แต่ทันทีเมื่อเพลงหยุด เธอก็ได้ยินเสียงเพลงที่เศร้ามาก วันรุ่งขึ้นชิโอริก็เริ่มสงสัยว่ามันอาจจะเป็นเพลงจากไดอารี่สีม่วงนั้นก็ได้ ตกกลางคืนเมื่อชิโอรินอน เธอก็ฝันได้ยินเสียงเพลงนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เสียงเพลงที่เธอได้ยินแต่ละคืนนั้นกลับไม่เหมือนกัน ชิโอริคิดว่าอาจจะเป็นเพราะคราบหมึกที่ติดอยู่บนโน้ตเพลงในไดอารี่เล่มนั้นแต่ชิโอริก็พยายามทำความเข้าใจเพื่อจะหาวิธีเล่นแบบถูกต้องให้ได้ ตกกลางคืน คืนนั้นชิโอริฝันถึงเสียงเพลงอีกแต่ว่าเธอได้ยินเสียงบางอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน เป็นเสียงของผู้หญิงกำลังเรียกชิโอริ แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เรียกชิโอริว่าชิโอริ แต่กลับเรียกชิโอริว่ามายะ ผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัวต่อหน้าชิโอริซึ่งผู้หญิงคนนั้นคือผู้หญิงในชุดดำ  และตอนนี้ชิโอริก็สามารถเล่นเพลงได้อย่างถูกต้องแล้ว ชิโอริคิดว่าถ้าเกิดเล่นเพลงนี้แล้วอาจจะทำให้ผู้หญิงชุดดำมีความสุขก็ได้ เพราะบทเพลงนี้เป็นเพลงที่ผู้หญิงในชุดดำชอบ ทุกๆคืน ผู้หญิงในชุดดำจะมาให้เธอเล่นเพลงให้ฟังประจำ  แต่เมื่อชิโอริเห็นผู้หญิงในชุดดำบอกให้เธอทำแต่สิ่งเดิมๆซ้ำๆ ชิโอริจึงบอกผู้หญิงในชุดดำว่าเธอไม่ใช่มายะแต่เธอเป็นคนอื่น ชิโอริรู้ว่าผู้หญิงในชุดดำสูญเสียคนสำคัญไปแต่เธอก็ต้องบอกผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงในชุดดำก็ไม่ฟังเธอ ชิโอริได้รู้แล้วว่าตอนนี้เธอได้กลายเป็นตัวแทนของมายะ เป็นตุ๊กตาของผู้หญิงในชุดดำไปแล้ว วันรุ่งขึ้นชิโอริได้ไปหา  ไคโตะ ฮาเซเบะ ซึ่งเป็นพี่ชายของเธอ  ชิโอริได้เล่าเรื่องราวต่างๆให้พี่ชายของเธอฟังแต่พี่ชายของเธออกลับไม่เชื่อแล้วบอกว่าชิโอริแค่เหนื่อยเกินไป  

             ตกกลางคืนเมื่อชิโอรินอนหลับ เธอก็ได้ยินเสียงผู้หญิงในชุดดำเรียกเธออีกครั้ง ชิโอริกลัวและอยากให้คนอื่นมาช่วยเธอ แต่มันก็สายไปแล้วเมื่อเธอรู้ว่าตอนนี้เธอติดอยู่ในไดอารี่แล้ว ทุกๆอย่างรอบๆเธอมืดสนิทจนทำให้เธอกลัวนอนไม่หลับ ผู้หญิงในชุดดำก็เข้ามาหาเธอ และให้ชิโอริเล่นเพลงนั้นทุกๆวัน ทุกๆวัน
ชิโอริ(ซ้าย) ไคโตะ(ขวา)

          หลังจากที่ชิโอริได้ถูกไดอารี่ดูดเข้าไปแล้ว ไม่นานไคโตะก็ได้พบว่าน้องสาวของตัวเองหายไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาพบหลังจากน้องสาวของเขาหายตัวไปแล้วคือ ไดอารี่กับช่อดอกไม้สีม่วง ไคโตะลองคิดย้อนกลับไปตอนที่น้องสาวบอกเขาเกี่ยวกับผู้หญิงในชุดดำและไดอารี่ ไคโตะคิดว่าต้องมีเงื่อนงำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับไดอารี่สีม่วงนี้แน่ ไคโตะจึงทำการตรวจสอบศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับไดอารี่เล่มนี้โดยที่เขาขอภาวนาแล้วว่า ถ้าตัวเขาได้หายไปก็ขอให้มีคนมาตามหาน้องสาวแทนเขาไคโตะได้ทราบข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับไดอารี่และเขาคิดว่าเขาคงจะมีโอกาสที่จะช่วยน้องสาวอยู่ จนกระทั่งไคโตะโดนคำสาป มองเห็นภาพหลอนเหมือนที่น้องสาวเคยเห็น ซึ่งภาพหลอนนั่นก็ทำให้ไคโตะเข้าไปในบ้านหลังนั้น เมื่อไคโตะเข้าไปในบ้านหลังนั้นเขาก็ได้พบกับประตูบานหนึ่งซึ่งมีรอยเลือดเป็นรูปมืออยู่บนประตู เขาใช้มือของตัวเองทาบลงไปที่รอยเลือดนั้นและเปิดเข้าไปทุกๆคืนเพื่อตามหาชิโอริ โดยหวังว่านั่นไม่ใช่รอยเลือดของน้องสาวของเขา จนวันหนึ่งไคโตะโชคร้ายได้เปิดประตูเข้าไปพบกับผู้หญิงในชุดดำเข้าพอดี  ในช่วงเวลานั้นเขาได้นึกถึงข่าวลือหนึ่ง ข่าวลือที่เกี่ยวกับกล้องที่สามารถทำอะไรบางอย่างกับคำสาปนี้ได้ กล้อง Obscura  เขาคิดว่าถ้าเขามีกล้องนี้เขาจะสามรถช่วยน้องสาวเขาได้ เขาจึงขอให้ใครก็ได้ที่มีกล้องใบนั้นช่วยเขาและน้องสาวของเขาด้วย แต่ไม่ทันไรผู้หญิงในชุดดำก็ได้ฆ่าไคโตะโดยการเย็บปากและตาของไคโตะ เพราะเธอเห็นว่าไคโตะไม่ใช่คนที่เธอตามหา...


กล้อง Obscura ใน Spirit Camera

Prologue

         ไดอารี่แห่งใบหน้า มันถูกส่งมากับห่อพัสดุที่ไม่มีชื่อติดไว้  ตอนแรกฉันก็คิดว่าอาจจะเป็นการเล่นอะไรแผลงๆ แต่ไม่ใช่ เมื่อฉันเปิดออกมา กล้องของฉันก็มีเสียงแปลกประหลาด.... ดูเหมือนว่ากล้อง Obscura จะมีปฏิกิริยากับไดอารี่เล่มนี้...    โปรดติดตามเรื่องราวต่อไปใน Spirit Camera:The Cursed Memoir           

 เกร็ดเล็กๆน้อยๆ
- เนื้อเรื่องเกมนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับซีรี่ย์หลัก
- เดิมทีเกมนี้มีชื่อว่า Dr. Asou's Spirit Camera แต่เนื่องจากผู้เล่นใหม่ไม่รู้ว่า ดร.อะโซ เป็นใครจึงได้ถูกตัดออกไปเป็น Spirit Camera เฉยๆ
- เพลงในเกมนี้แต่งโดย อายาโกะ โทโยะดะ ซึ่งเคยแต่งเพลงให้กับ Fatal Frame 1, 2 และ 3 มาแล้วด้วย
- สีของชุด ผม สีตา ของมายะจะแตกต่างจากของมายะอีกคนนึงโดยสิ้นเชิง
- คุณสามารถพบ 2 ฝาแฝดมิโอะและมายุแบบ Remake ที่เป็นตัวเอกจาก Fatal Frame 2 Wii Editon ได้ ถ้าคุณมีเกม Project Zero 2 Wii Editon ด้วย โดยการสแกน AR โค้ดที่อยู่ด้านหลังของปกเกม ซึ่งการที่จะทำแบบนี้ได้คุณต้องเคลียเกม Spirit Camera ให้จบหนึ่งรอบก่อน (ทำได้เฉพาะโซน JP และ EU เท่านั้น)

ปล. ถ้าจะเอาไปแปะที่อื่นก็ขออนุญาตก่อน และให้เครดิตเป็นลิงค์ต้นฉบับด้วย :D
ปล. 2 ที่จริงก็เขียนเสร็จตั้งแต่ปีที่แล้ว(งานครั้งแรกด้วย) แต่งานมันหายไปกว่าจะหาเจอก็ใช้เวลานานมาก T^T



อ่านเนื้อเรื่อง Fatal Frame ภาคอื่นๆได้ที่หน้าหลัก(กลับสู่หน้าหลักโดยการกดลิงค์ด้านล่างหรือชื่อของบล็อก)

4 ความคิดเห็น:

  1. เยื่ยมมากคับบบ ทำออกมาได้เยื่ยม มาก ทำออกมาเรื่อยๆ นะคับจะรอชม

    ตอบลบ
  2. ชอบมาก รอผลงานอื่นอยู่นะ คุณผีเสี้อ

    ตอบลบ
  3. เพิ่งเคยอ่านเรื่องของภาคนี้ สุดยอดจริงๆ

    ตอบลบ